วันเสาร์ที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

บทสวดพาหุง (พุทธชัยมงคลคาถา)

สวดถวายพรพระ
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโค อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ (สวด ๓ จบ)
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาค ผู้ไกลจากกิเลส ตรัสรู้ชอบด้วยพระองค์เอง พระองค์นั้น พระพุทธคุณ

อิติปิ โส ภะคะวา อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ แม้เพราะเหตุนี้ พระผู้มีพระภาคพระองค์นั้น เป็นผู้ไกลจากกิเลส ตรัสรู้ชอบด้วยพระองค์เอง
วิชชาจะระณะสัมปันโน สุคะโต โลกะวิทู ถึงพร้อมด้วยความรู้และความประพฤติ เป็นผู้เสด็จไปดีแล้ว ทรงรู้แจ้งโลก
อะนุตตะโร ปุริสะทัมมะสาระถิ ทรงเป็นสารถีฝึกบุคคลที่ควรฝึก ไม่มีใครยิ่งกว่า
สัตถา เทวะมะนุสสานัง ทรงเป็นศาสดาของเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย
พุทโธ ภะคะวาติ. ทรงเป็นผู้รู้แจ้ง ทรงเป็นผู้อธิบายธรรม

บทสวดพาหุง (พุทธชัยมงคลคาถา)

๑. พาหุงสะหัสสะมะภินิมมิตะสาวุธันตัง เมื่อพญามารเนรมิตแขนมากเป็นพัน ถืออาวุธในมือ
คิริเมขะลัง อุทิตะโฆระสะเสนะมารัง ขี่ช้างคิริเมขละ สะพรึบพร้อมด้วยกองทัพอันน่าสะพรึงกลัว
ทานาทิธัมมะวิธินา ชิตะวา มุนินโท พระจอมมุนีทรงชนะด้วยทานบารมีเป็นต้นอันชอบธรรม
ตันเตชะสา ภะวะ เม* ชะยะมังคะลานิ ด้วยพระเดชนั้น ขอชัยมงคลจงมีแก่ข้าพเจ้า
๒. มาราติเรกะมะภิยุชฌิตะสัพพะรัตติง เมื่ออาฬวกยักษ์ผู้ดุร้าย หยาบช้า และโหดเหึ้ยม โฆรัง ปะนาฬะวะกะมักขะมะถัทธะยักขัง เข้ามาราวีตลอดทั้งคืนยิ่งกว่าพญามาร ขันตีสุทันตะวิธินา ชิตะวา มุนินโท พระจอมมุนีทรงชนะด้วยการใช้พระขันติเป็นอุบายสั่งสอน ตันเตชะสา ภะวะตุ เม* ชะยะมังคะลานิ ด้วยพระเดชนั้น ขอชัยมงคลจงมีแก่ข้าพเจ้า
๓. นาฬาคิริง คะชะวะรัง อะติมัตตะภูตัง เมื่อพญาช้างนาฬาคิรีตกมันหนักดุร้ายเหลือ ทาวัคคิจักกะมะสะนีวะ สุทารุณันตัง แล่นเข้ามาราวกับไฟไหม้ป่า ดุจจักราวุธ เหมือนฟ้าผ่า เมตตัมพุเสกะวิธินา ชิตะวา มุนินโท พระจอมมุนีทรงชนะด้วยน้ำพระเมตตา ตันเตชะสา ภะวะตุ เม* ชะยะมังคะลานิ. ด้วยพระเดชนั้น ขอชัยมงคลจงมีแก่ข้าพเจ้า
๔. อุกขิตตะขัคคะมะติหัตถะ สุทารุณันตัง เมื่อโจรองคุลีมารผู้ดุร้าย ถือดาบเงื้อง่า ธาวัง ติโยชะนะปะถังคุลิมาละวันตัง วิ่งไล่ติดตามไปเป็นหนทาง ๓ โยชน์ อิทธีภิสังขะตะมะโน ชิตะวา มุนินโท พระจอมมุนีทรงชนะด้วยการบันดาลอิทธิฤทธิ์ ตันเตชะสา ภะวะตุ เม* ชะยะมังคะลานิ. ด้วยพระเดชนั้น ขอชัยมงคลจงมีแก่ข้าพเจ้า
๕. กัคตะวานะ กัฏฐะมุทะรัง อิวะ คัพภินียา เมื่อนางจิญจาเอาผ้าห่อไม้ทำเป็นท้องเหมือนหญิงมีครรภ์ จิญจายะ ทุฏฐะวะจะนัง ชะนะกายะมัชเฌ กล่าวคำใส่ร้ายในท่ามกลางหมู่ชน สันเตนะ โสมะวิธินา ชิตะวา มุนินโท พระจอมมุนีทรงชนะด้วยความสงบนิ่งอันประเสริฐ ตันเตชะสา ภะวะตุ เม* ชะยะมังคะลานิ. ด้วยพระเดชนั้น ขอชัยมงคลจงมีแก่ข้าพเจ้า
๖. สัจจัง วิหายะ มะติสัจจะกะวาทะเกตุง เมื่อสัจจกนิครนถ์ละทิ้งความจริงแท้ ชูธงประกาศความเห็นของตนว่าถูกต้อง วาทาภิโรปิตะมะนัง อะติอันธะภูตัง เป็นผู้มืดบอดอย่างยิ่ง ประสงค์จะโต้คารม ปัญญาปะทีปะชะลิโต ชิตะวา มุนินโท พระจอมมุนีทรงชนะด้วยพระปัญูญูาดุจประทีปอันโชติช่วง ตันเตชะสา ภะวะตุ เม* ชะยะมังคะลานิ. ด้วยพระเดชนั้น ขอชัยมงคลจงมีแก่ข้าพเจ้า
๗. นันโทปะนันทะภุชะคัง วิพุธัง มะหิทธิง เมื่อนั้นโทปนันทนาคราชผู้หลงผิด แผ่อิทธิฤทธิ์ใหญ่ ปุตเตนะ เถระภุชะเคนะ ทะมาปะยันโต พระจอมมุนีโปรดให้พระเถระพุทธบุตรผู้ประเสริฐไปปราบ อิทธูปะเทสะวิธินา ชิตะวา มุนินโท ทรงชนะด้วยการแสดงอิทธิฤทธิ์ ตันเตชะสา ภะวะตุ เม* ชะยะมังคะลานิ. ด้วยพระเดชนั้น ขอชัยมงคลจงมีแก่ข้าพเจ้า
๘. ทุคคาหะทิฏฐิภุชะเคนะ สุทัฏฐะหัตถัง เมื่อพรหมนามว่าพกะ ผู้บริสุทธิ์ ผ่องใส มีฤทธิ์ มีหัตถ์ พรัหมัง** วิสุทธิชุติมิทธิพะกาภิธานัง ถูกงูคือมิจฉาทิฏฐิขบกัดแล้ว ญาณาคะเทนะ วิธินา ชิตะวา มุนินโท พระจอมมุนีทรงชนะด้วยพระญาณโอสถ ตันเตชะสา ภะวะตุ เม* ชะยะมังคะลานิ. ด้วยพระเดชนั้น ขอชัยมงคลจงมีแก่ข้าพเจ้า

เอตาปิ พุทธะชะยะมังคะละอัฏฐะคาถาโย วาจะโน ทินะทิเน สะระเต มะตันที หิตวานะ เนกะวิวิธานิ จุปัททะวานิ โมกขัง สุขัง อะธิคะเมยยะ นะโร สะปัญโญ

ภะวะตุ สัพพะมังคะลัง รักขันตุ สัพพะเทวะตา สัพพะพุทธานุภาเวนะ สะทา โสตถิ ภะวันตุ เม*
ขอจงมีสรรพมงคล ขอปวงเทวดาจงคุ้มครอง ขอข้าพเจ้าจงมีความสวัสดีด้วยพุทธานุภาพทั้งปวงเสมอ
ภะวะตุ สัพพะมังคะลัง รักขันตุ สัพพะเทวะตา สัพพะธัมมานุภาเวนะ สะทา โสตถิ ภะวันตุ เม*
ขอจงมีสรรพมงคล ขอปวงเทวดาจงคุ้มครอง ขอข้าพเจ้าจงมีความสวัสดีด้วยธรรมานุภาพทั้งปวงเสมอ
ภะวะตุ สัพพะมังคะลัง รักขันตุ สัพพะเทวะตา สัพพะสังฆานุภาเวนะ สะทา โสตถิ ภะวันตุ เม*
ขอจงมีสรรพมงคล ขอปวงเทวดาจงคุ้มครอง ขอข้าพเจ้าจงมีความสวัสดีด้วยสังฆานุภาพทั้งปวงเสมอ


* ถ้าสวดให้คนอื่น ให้เปลี่ยนจากคำว่า เม เป็น เต ** อ่านว่า พรัมมัง